ข้อตกลงและเงื่อนไขของการเข้าร่วมประมูล
“บริษัทฯ” หมายถึง บริษัท พรีเมี่ยม อินเตอร์ อ๊อคชั่น จำกัด
“ผู้ขาย” หมายถึง เจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโดยชอบด้วยกฎหมาย นิติบุคคล บุคคลธรรมดา สถาบันการเงิน บริษัทประกันภัย บริษัทธุรกิจรถให้เช่า ฯลฯ
“ผู้ซื้อ” หมายถึง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ซื้อรถจากประมูลขายทอดตลาด
“ผู้เข้าร่วมประมูล” หมายถึง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประมูลในการประมูลขายทอดตลาด
1. บริษัทฯ เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วยวิธีการประมูลทรัพย์สิน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินที่นำเข้าประมูล ทรัพย์สินที่นำออกขายถือเป็นรถยนต์ใช้แล้ว คุณภาพอาจไม่สมบูรณ์ เป็นการขายตามสภาพ ไม่ได้1. บริษัทฯ เป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วยวิธีการประมูลทรัพย์สิน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินที่นำเข้าประมูล ทรัพย์สินที่นำออกขายถือเป็นรถยนต์ใช้แล้ว คุณภาพอาจไม่สมบูรณ์ เป็นการขายตามสภาพ ไม่ได้ ปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือสภาพรถแต่อย่างใด ข้อมูลบางประการไม่สามารถตรวจสอบได้ ผู้ซื้อมีหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า เงื่อนไขและคุณสมบัติต่าง ๆ ของรถยนต์ก่อนเข้าร่วมประมูล บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิด ใด ๆ ในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นภายหลังการประมูล โดยถือว่าผู้ซื้อทราบและยอมรับถึงสภาพของรายการนั้นแล้ว บริษัทฯ ไม่รับเปลี่ยน หรือรับคืนใด ๆ ทั้งสิ้น
2. บริษัทฯ เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลได้ 2 ช่องทาง คือการประมูลที่หน้าลานประมูล โดยการยกมือชูป้าย และการประมูลผ่านระบบ กรณีที่มีการเสนอราคาพร้อมกันระหว่างผู้เข้าร่วมประมูลหน้าลาน ON SITE กับผู้ประมูลทาง บริษัทฯ ขอ สงวนการให้สิทธิ์กับผู้เข้าร่วมประมูลก่อน และท่านใดที่เสนอราคาสูงสุดเป็นท่าน สุดท้าย เมื่อโฆษกทำการขานราคานับ1 นับ2 นับ3 พร้อมกับเคาะค้อนขายผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะถือเป็นผู้ชนะการประมูล ** บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การตัดสินของผู้ดำเนินการประมูลมีอำนาจสูงสุด เมื่อเคาะค้อนขายเป็นที่สิ้นสุดการประมูลทันที **
3. ผู้ซื้อ ยอมรับเงื่อนไขการประมูลและยินยอมที่จะชำระเงินครบเต็มจำนวน ภายใน 3 วันทำการนับจากวันประมูล ผู้ซื้อต้องขนย้ายรถยนต์ออกจากพื้นที่ของบริษัทฯ ไม่เกิน 7 วัน
4. กรณีที่ผู้ซื้อ ไม่ชำระเงินรถยนต์ที่ประมูลได้ให้ครบจำนวน แก่บริษัทฯ ภายใน 3 วันทำการนับจากวันประมูล ผู้ขายและบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ริบเงินมัดจำและสามารถยกเลิกการขายหรือนำรถยนต์ที่ขายจากผู้ซื้อกลับคืน
5. กรณีที่ผู้ซื้อ ปฏิเสธการรับรถ ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้ซื้อต้องชำระ 10% ของตัวค่ารถยนต์ (ขั้นต่ำ 20,000 บาท) + ค่าดำเนินการเต็มจำนวน (ค่าดำเนินการตามประเภทรถ) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) ให้แก่บริษัทฯ
6. ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ การโอนกรรมสิทธิ์และการรับโอนกรรมสิทธิ์ การจดทะเบียน ค่าขนย้าย ค่าภาษี ค่าปรับ / เงินเพิ่ม อากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ถ้ามี) รวมถึงค่าจดทะเบียนในการขอใช้รถใหม่ (กรณีมีการการแจ้งหยุดใช้รถ) ตลอดจนภาษีรถนิติบุคคลที่โอน 2 ต่อหรือมากกว่า (ถ้ามี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายการประมูลที่แจ้งหรือทางพิธีกรการประมูลได้ประกาศ
7. บริษัทฯ จะบันทึกวิดีโอ ภาพและเสียง ของการประมูลทุกครั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันการขายทอดตลาด ทั้งนี้การตัดสินของพิธีกรประมูลถือเป็นที่สิ้นสุด
8. บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ลงทะเบียนเป็นความลับโดยจะไม่นำข้อมูลทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดของข้อมูลไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน บุคคลที่สาม หรือนำข้อมูลที่ได้ไปแสวงหาผลประโยชน์ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งในเชิงพาณิชย์ รวมถึง จะไม่นำข้อมูลที่ได้ไปกระทำการใดๆ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ลงทะเบียน หรือ มีความจำเป็นเพื่อผลในทางกฏหมายเท่านั้น
9. ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ผู้เข้าร่วมประมูล และผู้ซื้อ ในการใช้สื่อโฆษณาต่างๆในรูปแบบ วีดิโอ รูปภาพ เสียง ที่อาจจะติด ภาพ เสียง ตามข้อกฎหมาย PDPA ผู้ซื้อและผู้เข้าร่วมประมูลยอมรับและยินยอมตามเงื่อนไขตามประกาศ ของบริษัท ฯ
10. ผู้ซื้อมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์และลงนามยืนยัน ก่อนนำรถยนต์ออกจากนอกพื้นที่ของบริษัทฯ หากผู้ซื้อไม่ตรวจสภาพรถยนต์ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับพิจารณาการขอคืนรถ ถือว่าผู้ซื้อยินยอมรับรถยนต์ตามสภาพดังกล่าว และ สละสิทธิ์ในการเรียกค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง
11. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนรถ ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบในกรณีที่ รถไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ รถไม่สามารถจัดไฟแนนซ์ได้ รถติด CAR BLACKLIST หรือ รถเคลมประกัน ซึ่งไม่ได้ระบุรายละเอียดไว้ในเล่มทะเบียนหน้า 18
12. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันระบบเกียร์และเลขไมล์ที่ปรากฎในมาตรวัดระยะของรถทุกประเภท
13. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงเครื่องยนต์, เกียร์, เฟืองท้าย, แผ่นเพลท หรืออะไหล่ใดๆ ที่ไม่ตรงจากโรงงานผู้ผลิต
14. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคา , หมายเหตุ และเงื่อนไขการประมูลให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน และกลไกตลาดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
15. ทรัพย์สินประเภทรถที่นำออกขายทอดตลาดได้ทำการยกเลิก พ.ร.บ. และกรมธรรม์ประกันภัยแล้ว
16. ผู้ซื้อต้องดำเนินการศึกษาเงื่อนไขขั้นตอนการประมูล การชำระเงิน การโอนกรรมสิทธิ์ รับทราบและยินยอมปฏิบัติตามภายใต้เงื่อนไขตามประกาศของบริษัทฯ
17. ผู้ซื้อต้องทำการกรอกแบบฟอร์มเอกสาร KYC เพื่อแสดงตัวตนทุกๆ 1 ปี
18. ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบภาษีประจำปี / ภาษีนิติบุคคล / ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวกับตัวรถ (ถ้ามี)
19. หากพบว่าการประมูลไม่โปร่งใส บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการประมูลคันดังกล่าวทันที
20. กรณีที่ผู้ซื้อโอนกรรมสิทธิ์ไม่ผ่านทุกกรณี ทางบริษัทฯ จะคืนให้เฉพาะค่าตัวรถ+ค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ถ้ามี) ที่ผู้ซื้อได้ชำระไว้เท่านั้น
ขั้นตอนการประมูล
การลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล
1. ผู้เข้าร่วมประมูล ณ ลานประมูล สามารถลงทะเบียน วางหลักประกันค่ามัดจำป้ายหมายเลขประมูลสำหรับการเข้าร่วมประมูล รถยนต์ รถเพื่อการเกษตร รถจักรยานยนต์ 20,000 บาท และรถจักรยานยนต์สำหรับ 1 คัน 5,000 บาท
2.กรณีเงินมัดจำป้ายเป็นเงินสด หากผู้เข้าร่วมประมูลไม่ชนะการประมูลต้องรับเงินมัดจำป้ายคืนไม่เกิน 3 วันทำการนับจากวันประมูล และตรวจสอบจำนวนเงินมัดจำป้าย พร้อมลงนามรับเงินคืน โดยถือว่าผู้เข้าร่วมประมูลทราบและยอมรับแล้ว และสละสิทธิ์ในการเรียกค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นภายหลัง
3.กรณีเงินมัดจำป้ายเป็นเงินโอน หากผู้เข้าร่วมประมูลไม่ชนะการประมูลต้องทำเรื่องคืนเงินมัดจำพร้อมแนบเอกสารสำเนาหน้าบัญชีที่ตรงกับชื่อในการออกใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี บริษัทฯได้รับเอกสารจะทำเรื่องโอนเงินคืนผู้ซื้อในวันถัดไปหลังจากได้รับเอกสารคืนเงินมัดจำป้าย
4.ผู้ซื้อที่ชนะการประมูลจะต้องลงนามในเอกสารเพื่อยืนยันการรับรถ ในแต่ละคันที่ชนะการประมูล
5.ผู้ซื้อที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ต้องทำการชำระ 10% ของตัวรถ+ค่าดำเนินการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ระบุในแคตตาล็อกเต็มจำนวน ภายในวันประมูล ส่วนที่เหลือ 90% ชำระภายใน 3 วันทำการ (เงินมัดจำป้าย 20,000 จะถือเป็นส่วนหนึ่งของราคารถที่ประมูลได้)
6.วันสุดท้ายของการชำระเงินไม่เกิน 12.00 น.
7. ผู้ที่สนใจร่วมประมูลออนไลน์ (Online) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลได้โดยสมัครสมาชิก ชำระค่ามัดจำ 40,000 บาท โดยการโอนเงินเข้าบัญชี บริษัท พรีเมี่ยม อินเตอร์ อ๊อคชั่น จำกัด เพื่อรับหมายเลขสมาชิก และ username / password ที่ใช้ในการร่วมประมูลออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถขอป้ายเข้าร่วมประมูลหน้าลานได้ โดยการสมัครสมาชิกจะสามารถยกเลิกได้หลังจากวันสมัคร 6 เดือน
8. กรณียกเลิกสมาชิก ต้องทำเรื่องคืนเงินสมาชิกพร้อมแนบเอกสารสำเนาหน้าบัญชีที่ตรงกับชื่อสมาชิกเท่านั้น เว้นแต่ บริษัท/ร้านของสมาชิกไม่มีเลขที่บัญชี สามารถใช้สำเนาหน้าบัญชีของกรรมการบริษัทท่านใดท่านหนึ่งที่ระบุในหนังสือรับรอง
9.เมื่อผู้ซื้อชำระเงินครบแล้วสามารถนำรถที่ประมูลกลับได้ทันที และนัดรับเล่มทะเบียนพร้อมชุดโอน ประมาณ15-30 วันทำการ
10.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงชื่อ-ที่อยู่ ผู้เข้าร่วมประมูลที่ลงทะเบียนตามใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี หลังผู้ซื้อได้รถประมูลทั้งหน้าลานและออนไลน์แล้ว
11.กรณีที่ผู้ซื้อต้องการขอใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีใหม่เพื่อใช้ทดแทนใบต้นฉบับที่สูญหายจะต้องมีใบแจ้งความเพื่อขอใหม่ หรือหากไม่มีใบแจ้งความจะมีค่าธรรมเนียม 500 บาทต่อคัน
เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียน
- บุคคลธรรมดา
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
กรณีไม่มาประมูลด้วยตนเอง ทำหนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ พร้อมรับรองสำเนา ถูกต้อง เงินมัดจำการประมูล เป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทะเบียนข้อ 1.
กรณีบุคคลธรรมดาเป็นชาวต่างชาติ สำเนาพาสปอร์ตและใบอนุญาตทำงานในประเทศหรือหนังสือรับรองที่พำนัก
-นิติบุคคล
สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ออกให้ไว้ไม่เกิน 3 เดือน และสำเนาใบภพ.20 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการบริษัทผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
เงินมัดจำการประมูล เป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทะเบียนข้อ 1.
การปรับราคาประมูล
การประมูล จะเริ่มการประมูลจากราคากลาง หากมีผู้ประมูลเสนอซื้อมากกว่า 1 ราย
กรณีรถยนต์ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท
กรณีรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท
กรณีรถจักรยานยนต์ราคาไม่เกิน 1 แสนบาท โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 1,000 บาท
กรณีรถจักรยานยนต์ราคาตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท
กรณีรถเพื่อการเกษตร โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประมูลที่เสนอราคาสูงสุดจะถือเป็นผู้ชนะการประมูล การตัดสินพิธีกรถือเป็นที่สิ้นสุด
ค่าธรรมเนียม / ค่าดำเนินการ (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ต่อคัน
- รถยนต์ 10,000 บาท
- รถจักรยานยนต์เกิน250 CC 10,000 บาท
- รถบรรทุก 6 ล้อ 12,500 บาท
- รถจักรยานยนต์ไม่เกิน250 CC 1,500 บาท
- รถบรรทุก 10 ล้อ 16,500 บาท
- รถเพื่อการเกษตร 8,000 บาท
- อุปกรณ์รถเกี่ยวข้าว รถไถ 1,000 บาท